
ฉีดโบริ้วรอยดีไหม? สามารถฉีดจุดไหนได้บ้าง?
ผลลัพธ์เป็นอย่างไรมาดูกัน
ฉีดโบริ้วรอยที่ไหนดี
โบริ้วรอย คืออะไร ?
การฉีดโบริ้วรอยในปัจจุบันนี้กำลังนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้คนหันมาดูเเลตัวเองมากขึ้น ยังต้องการให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ เเต่เนื่องจากการใช้ชีวิตในเเต่ละวันของเเต่ละคนนั้นทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น การล้างหน้าหรือถูหน้าเเรง ๆ เกิดจากเเดด ความเครียด เป็นต้น การฉีดโบริ้วรอยนี้จะช่วยทำให้ริ้วรอยดูจางลง อย่างเช่น บริเวณ คิ้ว หางตา ร่องเเก้ม หน้าผาก
-
โบริ้วรอย คืออะไร ?
-
โบริ้วรอยฉีดจุดไหนได้บ้าง?
-
ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจากอะไร ?
-
ข้อดี - ข้อเสีย
-
โบริ้วรอยเเพงไหม ?
-
โบริ้วรอยฉีดจุดไหนได้บ้าง?
-
อยู่ได้นานเเค่ไหน ?
-
ฉีดกี่ยูนิตถึงจะเห็นผล ?
-
ฉีดโบริ้วรอยที่ไหนดี ?
-
ฉีดโบริ้วรอยเจ็บไหม ?
-
กลับไปหน้าเเรก
-
กลับไปหน้าก่อนหน้า
โบริ้วรอยสามารถฉีดจุดไหนได้บ้าง ?
-
ริ้วรอยหน้าผาก
การฉีดโบริ้วรอยบนหน้าผากเป็นจุดที่นิยมฉีดกันที่สุด เพราะริ้วรอยจุดนี้มักเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าจุดอื่นๆ ส่วนใหญ่เเล้วนั้นจะเห็นชัดเมื่อแสดงสีหน้าต่างๆเเละทำให้ใบหน้าดูเเก่ก่อนวัยอันควร ซึ่งการฉีดโบริ้วรอยนี้ทำให้เห็นผลลัพท์ที่ดูเป็นธรรมชาติเเละยังทำให้ริ้วรอยดูจางลง ผิวเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์
-
ริ้วรอยระหว่างคิ้ว
ริ้วรอยบริเวณจุดนี้จะเห็นเมื่อเราเเสดงสีหน้าหรือขมวดคิ้ว หน้าจะดูมีอายุ ตัวโบริ้วรอยจะเข้าไปช่วยยับยั้งการหดตัวเเละทำให้ผิวเรียบขึ้น หากต้องการรักษาบริเวณจุดนี้ควรเลือกคลินิกที่มีเเพทย์ผู้ชำนาญการ
-
ริ้วรอยตีนกา
เป็นจุดที่คนส่วนใหญ่กังวลมากที่สุด มีความกังวลว่าเมื่อตีนกาขึ้น จะรู้สึกแก่ขึ้น เเต่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่เสี่ยงเนื่องจากอยู่ใกล้บริเวณตา เเต่ไม่ควรฉีดมากเกินไปเพราะจะทำให้ตาดูแข็ง ไม่ธรรมชาติ
-
ริ้วรอยใต้ตา
จุดนี้หากมีริ้วรอยเเล้วจะทำให้ใบหน้าโทรม ดูไม่สดใส หมองคล้ำ โบท็อกอาจะช่วยในจุดนี้ไม่ได้ อาจต้องใช้โปรแกรมฟิลเลอร์ช่วยแทน เเต่หากมีริ้วรอยในขณะยิ้ม เมื่อฉีดเเล้วโบจะช่วยให้ริ้วรอยดูจากลง
-
ริ้วรอยร่องแก้ม
บริเวณจุดนี้เกิดจากการหย่อนคล้อยของผิว ทำให้มีปัญหาบริเวณร่องเเก้ม หากจะให้เห็นผลที่ชัดเจนควรเติมโปรแกรม
ฟิลเลอร์ช่วยเเทน เเต่หากบริเวณจุดนี้เกิดขึ้นเมื่อยิ้มก็ควรจะฉีดโบเพื่อทำให้ริ้วรอยดูจางลง
มาดูขั้นตอน
การปรึกษาเเละประเมินรูปหน้ากับคุณหมอกันค่ะ

ขอบคุณรีวิวจาก คุณเฟิร์ส ที่ไว้ใจ About Face Clinic
ข้อดี
ทำให้มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น หมดความกังวลเรื่องริ้วรอย หน้าดูอ่อนวัยขึ้นไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น
ข้อเสีย
ผลลัพธ์ไม่สามารถอยู่ถาวรได้ ต้องเติมอยู่บ่อยๆ บางรายอาจจะต้องเติมทุก ๆ 3-4 เดือน เเล้วเเต่การใช้ชีวิตในประจำวันของเเต่ละคน หากฉีดมากเกินไปจะทำให้ใบหน้าดูเเข็ง ไม่ธรรมชาติ
โบริ้วรอยราคาเเพงไหม ?
หากเทียบกับผลลัพธ์เเล้ว ตอบได้เลยว่าไม่เเพง ในเเต่ละคนจะใช้ปริมาณที่ต่างกันเเละขึ้นอยู่กับปัญหาในเเต่ละจุด เช่น ความลึกของรอยตีนกา
เเต่สำหรับ About Face Clinic เเล้ว ราคาจะเริ่มต้นที่ 1,999 บาท หากมีข้อสงสัยหรืออยากปรึกษาคุณหมอ สามารถเลือกได้ทั้ง 3 สาขา คือ สาขาแจ้งวัฒนะ สาขาลาดพร้าว และสาขานวนคร
ฉีดกี่ยูนิตจึงจะเห็นผล ?
-
หน้าผาก ใช้ประมาณ 15-20 ยูนิต บริเวณหน้าผากจะตึงเป็นธรรมชาติ ริ้วรอยลดลง
-
ระหว่างคิ้ว ใช้ประมาณ 6-15 ยูนิต รอยย่นระหว่างคิ้วตึงขึ้น
-
หางตา ใช้ประมาณ 15-20 ยูนิต ลดริ้วรอย รอยตีนกาบริเวณหางตา
จะเห็นผลทันทีที่ฉีดเเต่เพียงเเค่เล็กน้อยเท่านั้นเเละจะเห็นผลชัดเจนตั้งเเต่ 2 สัปดาห์ขึ้นไป
อยู่ได้นานเเค่ไหน ?
โปรแกรมการฉีดโบให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร สามารถอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน จึงต้องมีการฉีดซ้ำต่อเนื่องตามระยะเวลา เพื่อให้คงสภาพ แต่ไม่ควรฉีดบ่อยหรือถี่จนเกินไป จะส่งผลให้หน้าดูเเข็งเกินไป ควรเว้นระยะห่างตามความเหมาะสม โบลดริ้วรอย หางตา ควรฉีดประมาณ 3-4 เดือน
ฉีดโบริ้วรอยที่ไหนดี ?
ขอเเนะนำ About Face Clinic เพราะ ทางคลินิกของเรามีสาขาในกรุงเทพมหานครถึง 3 สาขา เเละทุกสาขา มีเจ้าหน้าที่เเละทีมเเพทย์ผู้ชำนาญการด้านการปรับรูปหน้ามามากกว่าหลายปีเเละใช้โบแท้ในการฉีดทุกครั้ง คลินิกของเราพร้อมให้บริการเเละดูเเลทุกขั้นตอน ตั้งเเต่การปรึกษาไปจนถึงติดตามผลหลังทำทุกราย เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในผลลัพธ์อย่างชัดเจน
เนื่องจากมีหลายคลินิกที่ให้บริการฉีดโบเช่นกัน ทางคลินิกขอเเนะนำให้ลูกค้าขอตรวจสอบยากับทางคลินิกหรือเเพทย์ก่อนเข้ารับบริการทุกครั้งเพื่อความมั่นใจเเละความปลอดภัยของลูกค้าเอง หากลูกค้าไม่สามารถตรวจสอบได้เเละใช้โบปลอม จะทำให้ลูกค้าเกิด "ภาวะดื้อโบ" ในที่สุด
ฉีดโบริ้วรอยเจ็บไหม ?
ไม่เจ็บค่ะทางคลินิกของเรามีบริการประคบน้ำเเข็งก่อนทำหัตถการทุกครั้งเเต่ถ้าท่านใดกลัวเข็มมาก ทางคลินิกของเรามีบริการเเปะยาชา ฉะนั้นคนไข้จึงไม่ต้องกังวลเลยค่ะ
ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจากอะไร ?
แน่นอนว่าเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายเริ่มผลิตสารได้น้อยลง โดยเฉพาะสารสำคัญที่ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงอย่าง อิลาสติน กรดไฮยาลูรอน หรือคอลลาเจน ผิวจึงเริ่มหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย รอยตีนกา และ รอยย่นบนใบหน้าตามจุดต่าง ๆ เมื่ออายุเข้า 25 ปีจะค่อย ๆ ลดลง 1-2% ทุกปี นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อย่าง
ปัจจัยภายใน
-
กรรมพันธุ์
-
อายุ
ปัจจัยภายนอก
-
แสงแดด
-
มลภาวะ
-
อนุมูลอิสระ
-
ความเครียด
-
สุรา และบุหรี่
1. ริ้วรอยแบบตื้น ขนาดเล็ก
เป็นริ้วรอยที่เกิดจากผิวแห้ง สังเกตเห็นได้จากบริเวณรอบดวงตา ริมฝีปาก จึงควรเติมความชุ่มชื้นเพื่อลดริ้วรอยขนาดเล็กเหล่านี้ ด้วยการใช้ครีมบำรุงผิวสม่ำเสมอ
2. ริ้วรอยแบบลึก ที่ชั้นหนังแท้
เป็นริ้วรอยที่เสื่อมสภาพ กลับมาคืนรูปได้ยาก สามารถสังเกตเห็นได้บนใบหน้าได้ตลอดเวลา มักพบริ้วรอยชนิดนี้ได้บนใบหน้าผู้มีผิวแห้งมาก ๆ หรือผู้ที่มีผิวมันมาก ๆ รวมถึงผู้ที่มีพฤติกรรมแสดงสีหน้าบ่อย ๆ เช่น หัวเราะ, ขมวดคิ้ว, เลิกหน้าผาก จนเกิดรอยพับจนกลายเป็นรอยตีนกา รอยย่นที่หน้าผาก หรือ ริ้วรอยร่องแก้ม หากผิวมีความยืดหยุ่นลงลง จะคืนตัวได้ยาก
บริเวณไหนที่มักจะเกิดริ้วรอย ?
1.ริ้วรอยหน้าผาก
เกิดขึ้นบริเวณผากและระหว่างคิ้ว มักเกิดจากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าและการสูญเสียคอลลาเจนและความชุ่มชื้นในผิวหนัง
2.ริ้วรอยขมวดคิ้ว
เกิดจากการแสดงสีหน้าและการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณคิ้ว มักเห็นชัดเพราะตั้งอยู่ตรงกลางใบหน้า
3.ริ้วรอยร่องแก้ม
เกิดจากการแสดงสีหน้าเมื่อมีการยิ้มและความหย่อนคล้อยของผิวหนัง มักเป็นร่องลึกตั้งแต่ปีกจมูกไปถึงมุมปาก
4.ริ้วรอยที่คอ
เกิดขึ้นเนื่องจากขาดความยืดหยุ่นและความหนาแน่นของผิวหนังในบริเวณนั้น มักเกิดจากอายุที่มากขึ้น
5. ริ้วรอยใต้ตา
เกิดจากผิวหนังบริเวณรอบดวงตาที่บางลงและเสียความยืดหยุ่นเร็ว มักเริ่มเป็นริ้วรอยบาง ๆ หรือตีนกาบริเวณหางตาและค่อย ๆ ลึกขึ้นเมื่อไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
อ่านบทความเพิ่มเติม : https://www.nivea.co.th/advice/wrinkles?gad_source=1&gclid=Cj0KCQjw-uK0BhC0ARIsANQtgGOrwFFOGkUO5PUxpPsrKHS8vLlR5KE5iNO4c5DRLSQUlk_N5mduwz8aAvqYEALw_wcB&gclsrc=aw.ds
ดูรีวิวจากลูกค้าจริง










